by koobpovtxuj July 21st 2015, 5:49 am
Xyov li lau ua cas cov neeg no 1 tug tuaj tias cov nplooj tulianthed zoo tshuaj mob cancer.tsam no 1 tug ho tuaj hais li nram no lawm thiab tiag.Puas yog sib txeeb lag luam lawm xwb ne. เมื่อวันที่ 21 ก.ค. นพ.เพชร อลิสานันท์ แพทย์ประจำหน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา แผนกรังสีวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า จากการเผยแพร่ข่าวเรื่องทุเรียนเทศรักษาโรคมะเร็งนั้น ทำให้มีประชาชนจำนวนหนึ่ง เปลี่ยนวิธีการรักษาเป็นการกินน้ำใบทุเรียนเทศแทนการรักษาทางการแพทย์ ซึ่งความจริงแล้วการใช้ใบทุเรียนเทศเพื่อรักษามะเร็ง ถือว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการทำวิจัยในห้องทดลองเพื่อดูปฏิกิริยาระหว่าง สารสกัดใบทุเรียนเทศกับเซลล์มะเร็ง ซึ่งพบว่าการวิจัยในห้องทดลองมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งตับและมะเร็งเต้านม บางชนิด แต่ยังต้องพัฒนาและทดลองในสัตว์ทดลอง และในมนุษย์อีกหลายขั้นตอน เพื่อดูผลข้างเคียงระยะสั้น ระยะยาว แต่ขณะนี้พบว่ามีการขายผลิตภัณฑ์จากใบทุเรียนเทศ ในรูปแบบของ ใบทุเรียนเทศ ชาใบทุเรียนเทศ ทั้งในสื่อออนไลน์ เคเบิลทีวี และรถเร่ โดยอ้างว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ทุกชนิด
“การอ้างว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ทุกชนิด ทำให้ผู้ป่วยหลงผิดไปใช้วิธีการรับประทานยา และชาทุเรียนเทศจำนวนมาก จนเกิดภาวะไต ตับวายเฉียบพลันจนต้องเข้ามารักษาตัวที่รพ.จุฬาฯ จำนวนมาก โดยพบว่าเป็นผู้ป่วยในพื้นที่ กทม.กว่าร้อยละ 60 ต่างจังหวัดส่งตัวเข้ามารักษาอีกร้อยละ 40 จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่รพ.จุฬาตอนนี้ กว่าร้อยละ 80 ต้องหยุดการให้ยาเคมีบำบัดเพื่อรอให้ไตกลับมาทำงานเป็นปกติก่อน ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 1-2 เดือน” นพ.เพชร กล่าว
นพ.เพชร กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยที่เข้ามารักษานั้นส่วนใหญ่เป็นโรคมะเร็งระยะที่ 1 ซึ่งมีโอกาสที่จะรักษาให้หายขาดได้ ส่วนใหญ่รักษาด้วยเคมีบำบัด ซึ่งตามปกติจะถ่ายยาออกมาทางไต แต่พอผู้ป่วยไปรับประทานผลิตภัณฑ์จากใบทุเรียนเทศทำให้ไตทำงานผิดปกติ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงไม่สามารถให้เคมีบำบัดได้อีก แพทย์ต้องให้หยุดการกินใบทุเรียนเทศ เพื่อปรับสภาพของไตให้เป็นปกติ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ระหว่างนี้อาจจะทำให้โรคลุกลามได้ ขาดโอกาสในการรักษาโรคให้หายขาดได้ ทั้งนี้ ใบทุเรียนเทศ และสมุนไพรชนิดต่างๆ นั้นล้วนมีสารต่างๆ มากมาย รวมถึงสเตียรอยด์ตามธรรมชาติด้วย
ซึ่งในส่วนของใบทุเรียนเทศนั้นตนไม่ทราบว่ามีสารอะไรบ้าง แต่พบว่าผู้ป่วยที่รับประทานเข้าไปแล้วมีภาวะ มือสั่น ขาสั่น สารบางตัวเป็นพิษต่อระบบประสาท และถ้ายังรับประทานต่อเนื่องก็ไม่ทราบว่าจะมีผลเสียในระยะยาวอะไรบ้าง ส่วนตัวแล้วไม่แนะนำให้ใช้ เพราะยังไม่มีข้อสรุปผลการวิจัยว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้จริง อย่างไรก็ตาม การขายยา สมุนไพร ที่พบนั้น ก็ยังไม่มีการพิสูจน์ว่า มีการผสมสารอื่นๆลงไปอีกหรือไม่
นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า อยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารบนสื่อต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องทางการแพทย์ ถ้ายังไม่แน่ใจก็ขอให้หาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่นหน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โทร. 0-2256-4334 หรือให้ปรึกษาแพทย์ดีกว่า เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
ด้าน นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการทดลองฤทธิ์ของใบทุเรียนเทศ พบว่าใบแห้งนำมาต้มสกัดนั้น มีฤทธิ์ในการฆ่าเซลล์มะเร็งได้ แต่เป็นแค่การวิจัยในห้องทดลองเท่านั้น ซึ่งการค้นพบดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าจะสามารถนำใบไปต้มกินได้ทันที เพราะยังไม่มีใครทราบปริมาณที่เหมาะสมที่สารจะออกฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งโดยไม่ ทำลายอวัยวะอื่น หรือ เกิดผลข้างเคียงอื่น ซึ่งบางงานวิจัย มีข้อบ่งชี้ที่ว่าใบทุเรียนเทศสดมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์ดีในร่างกาย ดังนั้น จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม การจะนำใบทุเรียนเทศแบบแห้งมาต้มกินเพื่อรักษามะเร็งตับนั้นก็อยู่ที่การใช้ วิจารณญาณของผู้ป่วย และเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของผู้ป่วยที่ไม่มีทางเลือกอื่นในการรักษาแล้ว เท่านั้น
Home
